10 ธ.ค. 2553 - 19 ธ.ค. 2553
(16.00 - 21.00)
4. กิจกรรมการแสดงเวทีกลาง
ตลอดการจัดงาน 10 คืน การแสดงบนเวทีกลางจะประกอบด้วยการแสดงดนตรีพื้นบ้าน การประกวดร้องเพลงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป การประกวดธิดากรุงเก่า(พ่อดุ ลูกสาวสวย) การประกวดธิดาช้าง และการเดินแบบผ้าขาวม้า
สำหรับการประกวดธิดาช้าง ก่อนการประกวดจะนำผู้สมัคร เข้ารับการอบรมให้ความรู้เรื่องสุขภาพ ในเรื่องของการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการรักษาสุขภาพของคนมีน้ำหนักมาก สำหรับการประกวดธิดากรุงเก่า(พ่อดุ ลูกสาวสวย) เป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัวส่งเสริมให้พ่อ ลูกมีกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งในปี 2552 จังหวัดได้จัดประกวดธิดากรุงเก่า(แม่สาว ลูกสวย)
(16.00 - 21.00)
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำหนดจัดงานเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง เมืองมรดกโลก เป็นประจำทุกปี โดยใช้ชื่องานว่า ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก และในการจัดงานดังกล่าวได้รวมการจัดงานกาชาดไว้ด้วยกัน ซึ่งในปี 2553 กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 10-19 ธันวาคม 2553ตั้งแต่เวลา 16.00 - 21.00 น.ณ วัดหลังคาขาว (ตรงข้ามวัดมหาธาตุ) อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีชื่องานเต็มว่า ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยา มรดกโลกและงานกาชาด ประจำปี 2553 และมีชื่องานเป็นภาษาอังกฤษว่า Ayutthaya world Heritage and red Cross Fair 2010 สถานที่จัดงานใช้บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งการจัดงานดังกล่าวได้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยมีกิจกรรมภายในงาน ดังนี้
1. การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
เมื่อ พ.ศ.2499 กรมศิลปากรได้ขุดพบพระบรมสารีริกธาตุในพระปรางค์วัดมหาธาตุ เป็นผอบศิลา ภายในมีสถูปซ้อนกัน 7 ชั้น แบ่งออกเป็น ชิน เงิน นาก ไม้ดำ ไม้จันทร์แดง แก้วโกเมน และทองคำ ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับอันมีค่า ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุให้ประชาชนได้สักการะบูชา ในวันที่ 6 ธันวาคม 2553 และทำพิธีทักษิณานุปทานที่วัดมหาธาตุ
เมื่อ พ.ศ.2499 กรมศิลปากรได้ขุดพบพระบรมสารีริกธาตุในพระปรางค์วัดมหาธาตุ เป็นผอบศิลา ภายในมีสถูปซ้อนกัน 7 ชั้น แบ่งออกเป็น ชิน เงิน นาก ไม้ดำ ไม้จันทร์แดง แก้วโกเมน และทองคำ ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับอันมีค่า ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุให้ประชาชนได้สักการะบูชา ในวันที่ 6 ธันวาคม 2553 และทำพิธีทักษิณานุปทานที่วัดมหาธาตุ
2. กิจกรรมการจัดแสดงแสง-เสียง และการจำลองบรรยากาศหน้างานสมัยกรุงศรีอยุธยา
ในปี 2553 ได้กำหนดให้มีการแสดงแสง-เสียงบริเวณวัดมหาธาตุ โดยเนื้อหาการแสดงเป็นการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพระนครศรีอยุธยา ยาวนานกว่า 417 ปี ซึ่งในปีนี้ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้จัดแสดง ซึ่งการแสดงดังกล่าวจะมีนักแสดงไม่น้อยกว่า 350-400 คน จะได้ชมความสามารถของช้างในการแสดงฉากต่าง ซึ่งในแต่ละรอบการแสดงจะสามารถจุผู้เข้าชมได้ประมาณ 2500 ที่นั่ง ในวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ จะจัดการแสดงเป็นสองรอบ วันจันทร์-วันพฤหัสบดี จำนวน 1 รอบ
ในปี 2553 ได้กำหนดให้มีการแสดงแสง-เสียงบริเวณวัดมหาธาตุ โดยเนื้อหาการแสดงเป็นการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพระนครศรีอยุธยา ยาวนานกว่า 417 ปี ซึ่งในปีนี้ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้จัดแสดง ซึ่งการแสดงดังกล่าวจะมีนักแสดงไม่น้อยกว่า 350-400 คน จะได้ชมความสามารถของช้างในการแสดงฉากต่าง ซึ่งในแต่ละรอบการแสดงจะสามารถจุผู้เข้าชมได้ประมาณ 2500 ที่นั่ง ในวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ จะจัดการแสดงเป็นสองรอบ วันจันทร์-วันพฤหัสบดี จำนวน 1 รอบ
3. การฝ่ายจัดกิจกรรมตลาดน้ำ
บริเวณบึงพระรามสถานที่การจัดงานฯ จะมีบึงน้ำที่สามารถสร้างบรรยากาศของตลาดน้ำ ให้ท่องเที่ยวมาเลือกซื้ออาหาร คาว หวาน ผลไม้ โดยพ่อค้า แม่ค้า จะพายเรือมาขายของ ได้แก่ ผัดไทย เกี่ยวเตี๋ยวเรือ ลูกชิ้นทอด กาแฟโบราณ อ้อยขวั่น แห้ว มันต้ม
บริเวณบึงพระรามสถานที่การจัดงานฯ จะมีบึงน้ำที่สามารถสร้างบรรยากาศของตลาดน้ำ ให้ท่องเที่ยวมาเลือกซื้ออาหาร คาว หวาน ผลไม้ โดยพ่อค้า แม่ค้า จะพายเรือมาขายของ ได้แก่ ผัดไทย เกี่ยวเตี๋ยวเรือ ลูกชิ้นทอด กาแฟโบราณ อ้อยขวั่น แห้ว มันต้ม
4. กิจกรรมการแสดงเวทีกลาง
ตลอดการจัดงาน 10 คืน การแสดงบนเวทีกลางจะประกอบด้วยการแสดงดนตรีพื้นบ้าน การประกวดร้องเพลงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป การประกวดธิดากรุงเก่า(พ่อดุ ลูกสาวสวย) การประกวดธิดาช้าง และการเดินแบบผ้าขาวม้า
สำหรับการประกวดธิดาช้าง ก่อนการประกวดจะนำผู้สมัคร เข้ารับการอบรมให้ความรู้เรื่องสุขภาพ ในเรื่องของการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการรักษาสุขภาพของคนมีน้ำหนักมาก สำหรับการประกวดธิดากรุงเก่า(พ่อดุ ลูกสาวสวย) เป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัวส่งเสริมให้พ่อ ลูกมีกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งในปี 2552 จังหวัดได้จัดประกวดธิดากรุงเก่า(แม่สาว ลูกสวย)
5. จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้าน “ผลิตภัณฑ์ชุมชน”
การจัดงานฯ จังหวัดจะนำผลิตภัณฑ์ชุมชนของจังหวัด(OTOP)ทั้ง 16 อำเภอมาจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว และได้เชิญชวนของดีของกลุ่มจังหวัดมาร่วมแสดงและจำหน่ายในงานด้วย
การจัดงานฯ จังหวัดจะนำผลิตภัณฑ์ชุมชนของจังหวัด(OTOP)ทั้ง 16 อำเภอมาจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว และได้เชิญชวนของดีของกลุ่มจังหวัดมาร่วมแสดงและจำหน่ายในงานด้วย
6. มหกรรมอาหารอิ่มอร่อยอยุธยา
กิจกรรมมหากรรมอาหารอิ่มอร่อยอยุธยา จังหวัดจะนำอาหารคาวหวาน ที่อร่อยที่สุดของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่นอาหารในโรงแรมต่าง ๆ ของอยุธยา หรือจากร้านอาหารที่อร่อยที่สุดจากอำเภอต่าง ๆ มาจำหน่าย
กิจกรรมมหากรรมอาหารอิ่มอร่อยอยุธยา จังหวัดจะนำอาหารคาวหวาน ที่อร่อยที่สุดของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่นอาหารในโรงแรมต่าง ๆ ของอยุธยา หรือจากร้านอาหารที่อร่อยที่สุดจากอำเภอต่าง ๆ มาจำหน่าย
7. กิจกรรมกาชาด
เหล่ากาชาดจังหวัดฯ ได้จัดกิจกรรมออกร้านกาชาดและการออกสลากกาชาด เพื่อหารายได้ไว้ในจ่ายในกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ ของจังหวัด
เหล่ากาชาดจังหวัดฯ ได้จัดกิจกรรมออกร้านกาชาดและการออกสลากกาชาด เพื่อหารายได้ไว้ในจ่ายในกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ ของจังหวัด
8. การฝ่ายจัดกิจกรรมรถไฟพ่วง
ในการจัดงานดังกล่าว ได้มีกิจกรรมต่างรอบบริเวณบึงพระราม ซึ่งมีเนื้อที่กว้างขวางมาก หากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะชมบรรยากาศรอบงาน จังหวัดได้จัดรถไฟพ่วง ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
ในการจัดงานดังกล่าว ได้มีกิจกรรมต่างรอบบริเวณบึงพระราม ซึ่งมีเนื้อที่กว้างขวางมาก หากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะชมบรรยากาศรอบงาน จังหวัดได้จัดรถไฟพ่วง ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
ติดต่อสอบถามพิ่มเติม ททท. พระนครศรีอยุธยา โทร. 0 3524 6076 - 7
หมวดหมู่: ศิลปะและวัฒนธรรม, ช้อปปิ้ง, ศิลปะการแสดง
โดยรถประจำทาง
Ordinary buses run between the Bangkoks Northern Bus Terminal (Mochit 2 Bus Terminal) and Ayutthaya's main terminal on Naresuan Rd. every 20 minutes between 5 a.m. and 7 p.m. The fare is 30 bahts and the trip takes around 2hours. Air-conditioned buses operate the same route every 20 minutes from 5.40 a.m. to 7.20 p.m. (every 15 minutes between 7a.m. and 5p.m.) at the rate of 47 bahts, the trip takes 1.5 hours when traffic to north of Bangkok is light, otherwise it will take two hours.
โดยรถไฟ
Trains to Ayutthaya leave Bangkok's Hua Lamphong Station approximately every hour between 4.20 a.m. and 10 p.m. The 3rd class fare is 15 bahts for the 1.5 hour trip. Train schedules are available from the information booth at Hua Lamphong Station. Alternatively, call 0 2223 7010, 0 2223 7020, or 1690 or visit www.railway.co.th for reservations.
โดยทางอื่น
Alternative I: Take Highway No. 1 (Phahonyothin Road.) then take Highway No. 32 to Ayutthaya.,Alternative II: Take Highway No. 304 (Chaeng Watthana Road.) or take Highway No. 302 (Ngamwongwan Road.); turn righ to Highway No. 306 (Tiwanon Road.), then take Highway No. 3111 (Pathum Thani - Samkhok - Sena) and turn right at Amphoe Sena to Highway No. 3263,Alternative III: Take Highway No. 306 (Bangkok - Nonthaburi - Pathum Thani Road.) then take Highway No. 347